“กรมขนส่ง” เข้มรถรับส่งนักเรียน 4,497 คันทั่วประเทศ

นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยถึงกรณีเด็กนักเรียนเสียชีวิตภายในรถตู้รับส่งของโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.พานทอง จ.ชลบุรีว่า ขบ. มีมาตรการให้สำนักงานขนส่งจังหวัดทั่วประเทศ ตรวจความพร้อมสภาพรถโรงเรียนและรถรับส่งนักเรียนให้รถมีอุปกรณ์ส่วนควบตามที่ ขบ. กำหนด รวมทั้งขอความร่วมมือโรงเรียนต่างๆ ถ้าต้องการใช้รถขนาดเล็กในการรับส่งนักเรียนมาให้ ขบ. ช่วยตรวจสอบให้เป็นรถรับส่งนักเรียนที่มีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ ขบ. มีนโยบายมอบหมายให้สำนักงานขนส่งทั่วประเทศไปช่วยดูแลคนขับรถโรงเรียนและรถรับส่งนักเรียนให้ขับขี่เป็นไปตามกฎจราจร เพิ่มความปลอดภัย รวมทั้งร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินโครงการโรงเรียนต้นแบบ(โมเดล)ต่างๆ ในเชิงเป็นการให้ความรู้ มีการอบรมคุณครู และเด็กนักเรียน ให้รู้จักช่วยเหลือตนเอง และเอาตัวรอดเมื่อต้องอยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งอาจจะยังไม่ทั่วถึง และต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นในการใช้บริการรถโรงเรียนหรือรถรับส่งนักเรียนในอนาคตต่อไป

ทั้งนี้ทุกช่วงของการเปิดภาคเรียน หรือเปิดเทอม ขบ. สั่งการให้สำนักงานขนส่งทุกแห่งทั่วประเทศกำชับตรวจสอบความปลอดภัยและการให้บริการรถโรงเรียนและรถรับส่งนักเรียนในพื้นที่รับผิดชอบทั่วประเทศอย่างเข้มงวดต่อเนื่องตลอดภาคการศึกษา ทั้งด้านมาตรฐานความปลอดภัยของตัวรถและพนักงานขับรถ โดยต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของนักเรียนที่โดยสารมากับรถ รถโรงเรียนและรถรับส่งนักเรียนต้องมีสภาพมั่นคงแข็งแรง ต้องชำระภาษีรถประจำปีอย่างถูกต้อง พร้อมที่จะให้บริการรับส่งนักเรียนได้อย่างปลอดภัย

สำหรับการนำรถยนต์ส่วนบุคคลทั้งในลักษณะรถสองแถวและรถตู้มาใช้รับส่งนักเรียน ขบคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. กำหนดให้ต้องผ่านการรับรองจากโรงเรียนหรือสถานศึกษา และต้องขออนุญาตใช้รถให้ถูกต้อง นำรถเข้าตรวจสภาพ ณ สำนักงานขนส่งจังหวัดที่โรงเรียนหรือสถานศึกษาตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยที่ทางราชการกำหนด ซึ่งจะได้รับอนุญาตครั้งละ 1 ภาคการศึกษาเท่านั้น ภายในรถต้องมีเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับช่วยเหลือนักเรียนเมื่อมีอุบัติเหตุ เช่น ถังดับเพลิง ค้อนทุบกระจก ที่นั่งผู้โดยสารต้องยึดแน่นมั่นคงแข็งแรงกรณีเป็นรถสองแถวต้องมีประตูและที่กั้นป้องกันนักเรียนตก ส่วนรถตู้ต้องจัดวางที่นั่งเป็นแถวตอนตามความกว้างของตัวรถเท่านั้น ห้ามดัดแปลงสภาพรถ ห้ามเพิ่มเบาะที่นั่งหรือการต่อเติมกระบะท้ายเพื่อให้รับนักเรียนได้มากเกินจำนวนบรรทุกที่ปลอดภัยหากพบการฝ่าฝืนพิจารณาสั่งเพิกถอนหนังสืออนุญาตให้ใช้รถทันที และไม่สามารถขออนุญาตได้อีกจนกว่าจะพ้น 1 ปีไปแล้ว

ส่วนผู้ขับรถนักเรียนต้องได้รับใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคลมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี หรือได้รับใบอนุญาตขับรถยนต์สาธารณะ หรือเป็นผู้ขับรถตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก ซึ่งต้องไม่เคยมีประวัติเสียหายอันเกิดจากการขับรถมาก่อน นอกจากนี้รถรับส่งนักเรียนแต่ละคันต้องมีผู้ควบคุมดูแลนักเรียน ซึ่งมีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี ประจำอยู่ในรถตลอดเวลาที่ใช้รับส่งนักเรียน เพื่อดูแลความปลอดภัยและให้ความช่วยเหลือนักเรียนในกรณีเกิดอุบัติเหตุ รวมทั้งเน้นย้ำให้ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) อย่างต่อเนื่องด้วย

รายงานข่าวจาก ขบ. แจ้งว่า สำหรับรถรับส่งนักเรียนที่ได้รับใบอนุญาตจาก ขบ. และยังไม่สิ้นอายุใบอนุญาตฯ ในปีงบ 65 ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.64 จนถึงปัจจุบันมีจำนวน 4,497คันทั่วประเทศ

You May Also Like

More From Author