จากกรณีลูกน้อง “กำนันนก” ยิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว หรือ “สาวัตรศิว” เสียชีวิต ระหว่างงานเลี้ยงภายในบ้านพัก เมื่อคืนวันที่ 6 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งมีนายตำรวจ 6 นาย ซึ่งมีหลักฐานว่าให้ความช่วยเหลือ นายประวีณ จันทร์คล้าย หรือ กำนันนก อย่างที่ทราบกันดีว่าตอนนี้ผู้ต้องหาถูกย้ายมาคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ
แต่ล่าสุด ญาติออกตำรวจทั้ง 6 นาย ออกมาร้องเรียนว่า มีคนอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่เรือนจำนครปฐม เรียกเงินญาติตำรวจคนละ 7,000 บาท อ้างว่าเป็นค่าดูแล เพื่อให้อยู่สบายในคุก
เปิดพฤติการณ์ 6 ตำรวจ ช่วยเหลือ "กำนันนก" หลบหนี-ทำลายหลักฐาน!
คุมตัว 6 ตร.ฝากขัง เอี่ยวช่วย “กำนันนก”หลบหนี
สั่งย้าย 25 ตร.เอี่ยวงานเลี้ยงกำนันนก ผบ.ตร.ย้ำหากผิดดำเนินการเด็ดขาด
โดยญาติตำรวจที่ถูกดำเนินคดีฐานให้ความช่วยเหลือกำนันนก เข้าพบ พล.ต.ต. วัฒนา ยี่จีน รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 รักษาราชการแทน ในตำแหน่งผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม หลังกลุ่มญาติตำรวจที่ถูกดำเนินคดีรวม 6 นาย ถูกหลอกให้โอนเงินคนละ 7,000บาท อ้างว่าเป็นค่าดูแลอำนวยความสะดวกในระหว่างอยู่ในเรือนจำ
โดยน้องสาวของตำรวจนายหนึ่ง เล่าว่า ช่วงเย็นของวันที่ 10 กันยายน ก่อนวันส่งตัวพี่ชายไปฝากขังที่ศาล มีคนอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่เรือนจำจังหวัดนครปฐมโทรศัพท์มาหา บอกว่าสามารถช่วยอำนวยความสะดวกในเรือนจำได้ ทั้งเรื่องอาหารการกิน ครบ 3 มื้อ ค่าเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัว มีค่าใช้จ่าย แบ่งเป็น ค่าอาหารวันละ 200 บาท รวม 6,000บาท และค่าเสื้อผ้า ของใช้จิปาถะอีก 1,000บาท รวมเป็นเงิน 7,000บาท โดยบอกว่าถ้าจะให้ดำเนินการจัดเตรียมของต่างๆ ได้สะดวก ต้องโอนภายในสองทุ่ม น้องสาวคนนี้จึงตัดสินใจโอนเงินไป เพราะ คิดว่า พี่ชายอยู่ในเรือนจำน่าจะใช้ชีวิตลำบาก
ต่อมาวันที่ 11 กันยายน วันส่งฝากขังที่ศาล ได้ข้อมูลว่าพี่ชายจะถูกส่งไปที่เรือนจำสมุทรสงครามต่อ ไม่ได้อยู่ที่นครปฐม เธอจึงโทรกลับไปหาคนที่แอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่เรือนจำ ปรากฎว่า ปลายสายยืนยันว่า สามารถติดต่อดำเนินการอำนวยความสะดวกที่เรือนจำสมุทรสงครามได้ เธอจึงให้คนรู้จักไปสอบถามข้อมูลเจ้าหน้าที่ในเรือนจำสมุทรสงคราม เจ้าหน้าที่ยืนยันว่าเรือนจำไม่มีการอำนวยความสะดวกอย่างที่กล่าวอ้าง และท้ายสุดก็ไม่สามารถติดต่อบุคคลนั้นได้อีก
เมื่อถามว่า ใครเป็นคนหลอกเงินกลุ่มญาติตำรวจ รักษาราชการแทนผู้กำกับการ สภ.เมืองนครปฐม บอกว่า จากการตรวจสอบ ลักษณะการหลอกเป็นรูปแบบเหมือนเป็นมิจฉาชีพ คอลเซ็นเตอร์ โดยเริ่มแรกวันที่ 10 กันยายน มิจฉาชีพโทรศัพท์เข้าเบอร์ สภ.เมืองนครปฐมอ้างว่าติดต่อจากเรือนจำ พนักงานวิทยุจึงให้เบอร์สิบเวร คือ ร้อยตำรวจโท ประทีบ ขำสาคร ไป
ต่อมามิจฉาชีพได้โทรศัพท์หาสิบเวร ร้อยตำรวจโท ประทีป อ้างว่า เป็นรองผู้บัญชาการเรือนจำนครปฐม ชื่อว่า อำนวย เกียรติไพบูลย์ ขอเบอร์ญาติตำรวจทั้ง 6 นาย พร้อมกับให้สิบเวรช่วยจดชื่อและเบอร์โทรที่แอบอ้างนี้ ช่วยไปให้ญาติตำรวจด้วยหลังจากนั้น สิบเวรเห็นญาติตำรวจมาเยี่ยมผู้ต้องหาที่โรงพัก จึงได้ส่งกระดาษโน๊ตชื่อและเบอร์ใบนี้ ให้กับญาติตำรวจ 2 นาย คือ ญาติของ ร.ต.อ.ณัฏฐพล นาคกร ตำรวจสังกัดทางหลวง และ ร.ต.ท.นิมิตร สลิดกุล สารวัตรจราจร สภ.เมืองนครปฐม ซึ่งปกติแล้วญาติของตำรวจทั้ง 6 นายมีกลุ่มไลน์พูดคุยกัน ทำให้มีการส่งต่อเบอร์ให้ญาตินายตำรวจคนอื่นๆด้วย หมายความว่า ญาติตำรวจทั้ง 6 คน โอนเงินไปให้ มิจฉาชีพนี้ ทั้งหมด คนละ 7,000 บาท รวมเป็นเงิน 42,000 บาท
เมื่อตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์ที่มิจฉาชีพใช้พบว่าคนที่ลงทะเบียนเบอร์นี้มีประวัติก่อเหตุหลายคดีซึ่งเชื่อได้ว่าอาจเป็นมิจฉาชีพรวมถึงตรวจสอบสลิปการโอนเงินชื่อบัญชีเป็นบุคคลหนึ่งที่อยู่ในจังหวัดสระบุรีตอนนี้กำลังติดตามตัวว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่อย่างไรแต่เชื่อว่าน่าจะเป็นบัญชีม้าที่ใช้สำหรับก่อเหตุเท่านั้น
ขณะที่สิบเวร ร้อยตำรวจโท ประทีป จากการตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์ พบว่า คุยกับมิจฉาชีพเพียงครั้งเดียว ในวันที่ 10 กันยายน ใช้เวลา เพียง 2 นาที 43 วินาทีเท่านั้น หลังจากนั้นญาติตำรวจกับมิจฉาชีพติดต่อประสานกันเอง อีกทั้งไม่พบว่ามีการโอนเงินผลประโยชน์ใดใดให้กับ ร้อยตำรวจโท ประทีปคำพูดจาก เว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์
พล.ต.ต. วัฒนา รักษาราชการแทน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม ยืนยันว่า การหลอกลวงญาติของตำรวจ จากข้อมูลการสืบสวนเบื้องต้น ไม่พบว่าตำรวจมีส่วนร่วมในขบวนการนี้ ส่วนเรื่องข้อสงสัยที่ว่า ทำไมมิจฉาชีพหรือคอลเซ็นเตอร์ใช้เรื่องความกังวลของญาติมาหากินในช่วงนี้ หรืออาจจะมีเจ้าหน้าที่รู้เห็นด้วยหรือไม่ทางตำรวจก็ยังไม่ตัดประเด็นในเรื่องนี้ออก ก็ยังอยู่ในระหว่างสืบสวนต่อและหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากข้อมูลชื่อ อำนวย เกียรติไพบูลย์ ไม่พบว่ามีข้อมูลชื่อนี้เป็นเจ้าหน้าที่เรือนจำจังหวัดนครปฐม ซึ่งทีมข่าวพีพีทีวี ลองโทรศัพท์ตามหมายเลขที่มิจฉาชีพให้ไว้พบว่าขณะนี้หมายเลขนี้ไม่สามารถติดต่อได้แล้ว
เปิดโปรแกรมวอลเลย์บอลชายไทย ทำศึกเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 พีพีทีวี ยิงสด
โปรแกรมการแข่งขันกีฬา เอเชียนเกมส์ 2022 ประจำวันพฤหัสบดีที่ 21 ก.ย. 66
“เอเชียนเกมส์ 2022” ไขข้อสงสัยทำไมแข่งปี 2023 แต่ใช้ชื่อปีเดิม