“บลิงเคน” เดินสายเยือนตะวันออกกลาง ปรามสงครามขยายวง

นอกเหนือจากสงครามและวิกฤตทางมนุษยธรรมในฉนวนกาซาแล้ว ขณะนี้หลายฝ่ายกังวลว่าความตึงเครียดในตะวันออกกลางอาจลุกลามกลายเป็นสงครามระดับภูมิภาค หลังจากเหตุโจมตีทวีความรุนแรงขึ้นทั้งในเลบานอน อิหร่าน และบริเวณทะเลแดง

นี่ทำให้ แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ต้องปฏิบัติภารกิจเยือนตะวันออกกลางและหารือร่วมกับประเทศต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในภูมิภาค เพื่อหาทางลดระดับความตึงเครียดไม่ให้ขยายวงกว้างออกไปมากกว่านี้

อิสราเอลพบหลักฐาน อิหร่านช่วยฮามาสสร้างขีปนาวุธความแม่นยำสูง

อิสราเอลเผย กวาดล้างศูนย์บัญชาการฮามาสในกาซาตอนเหนือได้แล้ว

ผู้นำเฮซบอลเลาห์ประกาศตอบโต้อิสราเอลหลังโดรนสังหารแกนนำคนสำคัญของฮามาส

โดยเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ได้เดินทางไปยังกรุงโดฮา ประเทศกาตาร์โดยจุดประสงค์ของเยือนกาตาร์ครั้งนี้คือ เพื่อหารือร่วมกับ ชีค ทามิม บิน ฮาหมัด อัล-ธานี เจ้าผู้ครองรัฐกาตาร์

ระหว่างการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวเกี่ยวกับสถานการณ์ในภูมิภาคว่า นี่ถือเป็นช่วงเวลาที่ตึงเครียดอย่างมากและสุ่มเสี่ยงอย่างยิ่งที่ความขัดแย้งจะขยายวงในตะวันออกกลาง จนนำมาซึ่งความไร้เสถียรภาพและความทุกข์ทรมานรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ยังเปิดเผยประเด็นที่จะพูดคุยกับอิสราเอลในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ว่า

สหรัฐฯ จะกดดันให้รัฐบาลอิสราเอลหาทางป้องกันการบาดเจ็บและเสียชีวิตของพลเรือนชาวปาเลสไตน์จากปฏิบัติการทางการทหารในฉนวนกาซาให้มากกว่านี้

ในช่วงเช้าวันเดียวกันก่อนจะเดินทางไปยังกาตาร์ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ได้เปิดฉากการเดินสายเยือนภูมิภาคตะวันออกกลางที่กรุงอัมนาน ประเทศจอร์แดน โดยระหว่างการเข้าพบกษัตริย์อับดุลลาห์ที่สองแห่งจอร์แดน กษัตริย์จอร์แดนได้เรียกร้องให้สหรัฐฯ ใช้อิทธิพลกดดันให้อิสราเอลหยุดยิงทันที พร้อมเตือนสหรัฐฯ ว่าปฏิบัติการทางการทหารของกองกำลังอิสราเอลในฉนวนกาซาจะนำไปสู่ผลสะท้อนกลับระดับหายนะ

นี่เป็นครั้งที่ 4 แล้ว ที่รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เดินสายเยือนชาติตะวันออกกลาง นับตั้งแต่สงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสปะทุขึ้นเมื่อสามเดือนที่แล้ว เป้าประสงค์หลักของการเยือนครั้งนี้ คือเพื่อหาทางลดระดับความขัดแย้งไม่ให้สงครามลุกลามและขยายตัวในตะวันออกกลาง

นอกจากกาตาร์และจอร์แดนแล้ว ต่อจากนี้บลิงเคนยังมีกำหนดการเดินทางไปยังสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซาอุดีอาระเบีย อิสราเอล เวสต์แบงก์ และอียิปต์

การระเบิดขึ้นของสงครามระดับภูมิภาค ส่อแววว่าอาจเกิดขึ้นหลังเกิดเหตุความรุนแรงขึ้นในสองพื้นที่ พื้นที่แรกคือเลบานอน เหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 2 มกราคมที่ผ่านมา โดยอิสราเอลได้ส่งโดรนไปสังหารแกนนำคนสำคัญของฮามาสถึงกรุงเบรุต เมืองหลวงของเลบานอน

ส่งผลให้กลุ่มเฮซบอลเลาะห์ ซึ่งเป็นกองกำลังและกลุ่มการเมืองที่ทรงอิทธิพลของเลบานอนโจมตีชายแดนทางตอนเหนืออิสราเอลหนักขึ้นส่วนอีกพื้นที่คือทะเลแดง ซึ่งที่ผ่านมากลุ่มกบฏฮูตีที่มีอิหร่านหนุนหลัง ได้โจมตีเรือพาณิชย์ที่สัญจรผ่านบริเวณดังกล่าว

เลบานอน-ทะเลแดง สุ่มเสี่ยงความขัดแย้งขยายวงกว้าง

สำหรับความตึงเครียดระหว่างอิสราเอลและกลุ่มเฮซบอลเลาะห์ เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ที่ผู้นำคนสำคัญของฮามาสที่ถูกโดรนอิสราเอลโจมตีจนเสียชีวิตคือ ซาเลห์ อัล-อารูรี รองหัวหน้าฝ่ายการเมือง มีบทบาทสำคัญมากในฐานะผู้ประสานระหว่างกลุ่มฮามาสกับกลุ่มเฮซบอลเลาะห์และอิหร่าน อัล-อารูรียังป็นผู้ก่อตั้งกองพันน้อยอัล-ฆัสซาม ปีกทางการทหารของกลุ่มฮามาสที่กำลังสู้รบกับทหารอิสราเอลในฉนวนกาซาด้วย

เหตุการณ์สังหาร อัล-อารูรี เกิดขึ้นในช่วงค่ำของวันที่ 2 มกราคมที่ผ่านมา โดรนหลายลำถูกยิงเข้าน่านฟ้า ฝ่าระบบการตรวจจับทางอากาศของเลบานอน ก่อนจะเข้าโจมตีอาคารหลังหนึ่งทางตอนใต้ของกรุงเบรุตซึ่งถูกใช้เป็นที่ทำการของกลุ่มฮามาส ส่งผลให้ทำให้ อัล-อารูรี และสมาชิกอาวุโสของกองพันน้อยอัล-ฆัสซามอีก 2 รายเสียชีวิตทันที

หลังเกิดเหตุ กลุ่มเฮซบอลเลาะห์ซึ่งมีฐานที่มั่นในเลบานอนได้เปิดฉากยิงจรวดกว่า 40 ลูกถล่มเมืองเมรอน พื้นที่ทางตอนเหนือของอิสราเอลเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ตามที่ฮัสซาน นาสรัลเลาะห์ผู้นำสูงสุดกลุ่มเฮซบอลเลาะห์เคยออกมาประกาศว่า จะโจมตีตอบโต้อิสราเอลอย่างแน่นอน ระบบป้องกันภัยทางอากาศของอิสราเอลสามารถยิงสกัดจรวดจำนวนหนึ่งไว้ได้ เห็นได้จากภาพว่าเกิดกลุ่มควันดำเป็นจุดๆ บนท้องฟ้า

อย่างไรก็ตาม กองกำลังป้องกันตนเองอิสราเอลหรือ IDF ได้ออกมายอมรับว่า การโจมตีระลอกดังกล่าวของกลุ่มเฮซบอลเลาะห์ส่งผลให้ฐานทัพอากาศแห่งหนึ่งที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ของอิสราเอลถูกทำลาย ขณะที่ภาพที่กลุ่มเฮซบอลเลาะห์เผยแพร่ออกมาได้เผยให้เห็นว่า อาคารทรงโดมซึ่งมีที่ตั้งอยู่บริเวณภูเขาเมรอนเกิดไฟปะทุขึ้นและมีกลุ่มควันลอยออกมาจากการโจมตี

การโจมตีตอบโต้กันไปมาระหว่างกองทัพอิสราเอลและกลุ่มเฮซบอลเลาะห์บริเวณชายแดนยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่องจนถึงวันนี้ นอกจากกลุ่มเฮซบอลเลาะห์แล้ว อีกกลุ่มติดอาวุธที่หลายฝ่ายติดตามความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิดคือ กลุ่มกบฏฮูตีในเยเมน ที่พยายามโจมตีเรือในทะเลแดงอยู่เป็นระยะๆ เพื่อลงโทษอิสราเอลทางอ้อม

ล่าสุด เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มาห์ดี อัล-มาชาต หัวหน้าสภาสูงสุดทางการเมืองของกลุ่มกบฏฮูตี ได้ออกมาแสดงท่าทีขณะที่ประชุมร่วมกับคณะทำงาน โดยระบุว่า เรือทุกลำที่เป็นของอิสราเอลหรือมีความเกี่ยวข้องกับอิสราเอล จะไม่ได้รับอนุญาตให้สัญจรผ่านน่านน้ำทะเลแดง โดยกลุ่มฮูตีจะไม่เปลี่ยนแปลงมาตรการนี้ไม่ว่าจะต้องแลกมาด้วยอะไรก็ตาม

ก่อนหน้านี้ กบฎฮูตีเคยประกาศว่า หากอิสราเอลไม่หยุดรุกรานฉนวนกาซา กลุ่มฮูตีก็จะไม่หยุดโจมตีเรือที่เกี่ยวข้องกับอิสราเอลในทะเลแดง

อิสราเอลเดินหน้ากำจัดฮามาส

อย่างไรก็ดี แม้จะถูกขู่จากทั้งกลุ่มติดอาวุธทั้งสองกลุ่ม แต่อิสราเอลยังคงเดินหน้าสงครามกวาดล้างกลุ่มนักรบฮามาสในฉนวนกาซาอย่างต่อเนื่องล่าสุดอิสราเอลอ้างว่าสังหารกลุ่มฮามาสไปได้เกือบหมื่นรายแล้ว

เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา พลเรือตรีแดเนียล ฮาการี โฆษกกองกำลังป้องกันตนเองอิสราเอลหรือ IDF ได้ออกมาระบุว่า ตั้งแต่เปิดปฏิบัติการภาคพื้นดินในฉนวนกาซาเมื่อวันที่ 27 ตุลาคมที่ผ่านมา สามารถสังหารกลุ่มฮามาสได้แล้วถึง 8,000 คน และสามารถจำกัดศักยภาพในการสู้รบของกลุ่มฮามาสทางตอนเหนือของฉนวนกาซาได้แล้วคำพูดจาก เว็บสล็อต ดีที่สุดในไทย

สำหรับแผนปฏิบัติการในตอนเหนือของฉนวนกาซาหลังจากนี้ โยอาฟ กัลแลนท์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอลได้ระบุไว้เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมาว่า กองกำลังอิสราเอลมีแผนเตรียมจะเปลี่ยนไปใช้แนวทางการสู้รบแบบใหม่ใน โดยจะเน้นไปที่การจู่โจมแบบโฉบฉวย การทำลายโครงข่ายอุโมงค์ของกลุ่มฮามาส รวมถึงปฏิบัติการพิเศษ

ส่วนเป้าหมายสำคัญต่อไปคือ การกวาดล้างฐานที่มั่นของกลุ่มฮามาสที่อยู่ทางตอนกลางและทางตอนใต้ของฉนวนกาซา โดยเฉพาะที่เมืองข่าน ยูนิส ซึ่ง IDF เชื่อว่าผู้นำของกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซาใช้เป็นที่กบดานสอดคล้องกับรายงานการโจมตีในสองพื้นที่ดังกล่าวที่ออกมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ช่วงสิ้นปีที่แล้ว

ขณะที่พลเรือนชาวปาเลสไตน์ต่างอพยพลงไปทางตอนใต้อย่างต่อเนื่องตามคำสั่งของอิสราเอล จนบางส่วนลี้ภัยจนเกือบประชิดชายแดนอียิปต์แล้ว

ความมุ่งมั่นที่จะทำสงครามต่อไปของอิสราเอล สะท้อนผ่านคำกล่าวของเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอลระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรีสงครามเมื่อวันพฤหัสฯ ที่ผ่านมาโดยระบุว่าอิสราเอลจะไม่ยอมถอยจนกว่าสงครามจะบรรลุเป้าหมาย นั่นคือการกวาดล้างกลุ่มฮามาสให้สิ้นซากและช่วยเหลือตัวประกันที่เหลือออกมาจากการควบคุมของกลุ่มฮามาสให้ได้

รัฐมนตรีอิสราเอลเห็นแย้งแผนจัดการฉนวนกาซา

คำถามต่อมาคือ ถ้าอิสราเอลบรรลุเป้าหมายในการทำสงครามแล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับฉนวนกาซา

ก่อนหน้านี้เมื่อวันพฤหัสฯ ที่ 4 มกราคม รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอลได้ออกมาเปิดเผยแผนจัดการฉนวนกาซาหลังสงครามผ่านเอกสารความยาว 3 หน้ากระดาษที่มีชื่อว่า "Day After" โดยเสนอว่า ฉนวนกาซาจะต้องไม่ถูกปกครองโดยกลุ่มฮามาสอีกต่อไป และอิสราเอลจะยังคงมีบทบาททางการทหารในการควบคุมความมั่นคงชายแดนของฉนวนกาซา ขณะที่หน่วยงานที่จะเข้ามาปกครองฉนวนกาซาต่อไป จะต้องมาจากชาวกาซาที่ไม่มีความเกี่ยวพันกับกลุ่มฮามาส

แต่ประเด็นที่นำไปสู่ความกังวลและการวิพากษ์วิจารณ์ในหมู่ชาติตะวันออกกลาง รวมถึงทำเนียบขาวคือ การออกมาแย้งของ เบซาเอล สโมทริช รัฐมนตรีคลังของอิสราเอล และอิตามาร์ เบน-กวีร์ รัฐมนตรีความมั่นคงแห่งชาติของอิสราเอล ซึ่งทั้งสองมีจุดยืนโน้มเอียงไปทางขวาสุดโต่ง

โดยสองรัฐมนตรีสายอนุรักษ์นิยมของอิสราเอลออกมาย้ำว่า ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาทั้งหมดควรอพยพและออกไปตั้งถิ่นฐานนอกฉนวนกาซา ประเด็นที่ชาวปาเลสไตน์กว่า 2 ล้านคนจะถูกผลักดันออกจากพื้นที่และกลายเป็นผู้ลี้ภัยก่อให้เกิดความไม่พอใจกับบรรดาผู้นำโลกอาหรับอย่างมาก

นี่จึงกลายเป็นอีกประเด็นที่ถูกหยิบยกขึ้นมาท่ามกลางการพบกันระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ และผู้นำชาติตะวันออกกลาง นอกเหนือจากประเด็นการลดอุณหภูมิความขัดแย้งในภูมิภาค เมื่อคืนที่ผ่านมาระหว่างการแถลงข่าวที่กาตาร์ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ให้สัญญากับผู้นำอาหรับว่า ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาควรจะได้กลับบ้านของตนเองหลังสงครามสิ้นสุด และจะต้องไม่ถูกบีบบังคับให้ย้ายออกจากฉนวนกาซา

อย่างไรก็ตามรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ มีกำหนดเยือนชาติตะวันออกกลางตลอดทั้งสัปดาห์ โดยในวันนี้จะเข้าร่วมหารือกับผู้นำสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และซาอุดีอาระเบีย จากนั้นจะเดินทางเยือนอิสราเอล เวสต์แบงค์ และอียิปต์เป็นลำดับต่อไป

เช็กวันมงคล ฤกษ์ดี วันดี-วันกาลกิณี "เดือน มีนาคม"

เกาหลีเหนือยิงปืนใหญ่มาทางเกาหลีใต้อีกครั้ง เป็นวันที่ 3 ติดต่อกันแล้ว

ผลการสอบ TGAT/TPAT ออกแล้ว! เปิดสถิติคะแนนของเด็ก TCAS67